วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

การยกเว้น หรือ การเทียบโอน หรือ การโอนรายวิชา ของ มทร.รัตนโกสินทร์


ข้อมูลควรรู้เกี่ยวกับ : การยกเว้น หรือ การเทียบโอน หรืออ การโอนรายวิชา
หลายคนคงสงสัยว่าการเทียบโอนคืออะไร และสามารถทำได้อย่างได้บ้าง  ดังต่อไปนี้

1. ให้หัวหน้าสถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการเทียบโอนผลการเรียน ซึ่งมีคุณสมบัติสอดคล้องกับระดับการศึกษาและ
    สาขาวิชาที่ขอเทียบโอน จำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน ดำเนินการเทียบโอนผลการเรียนตามหลักสูตรที่กำหนด
2. คณะกรรมการเทียบโอนผลการเรียน มีหน้าที่ดำเนินการเทียบโอนผลการเรียนรู้และ/หรือประเมินความรู้ ทักษะและ
    ประสบการณ์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลที่มหาวิทยาลัยกำหนด
3. ผู้ขอเทียบโอนผลการเรียน ต้องขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย
4. ผู้ขอเทียบโอนจะต้องใช้เวลาศึกษาอยู่ในสถานศึกษาอย่างน้อยหนึ่งปีการศึกษา
5. ค่าธรรมเนียมการเทียบโอนผลการเรียนและหน่วยกิตให้เป็นไปตามประกาศของมหาวิทยาลัย
6.  ให้หัวหน้าสถานศึกษาเป็นผู้อนุมัติผลการเทียบโอนผลการเรียน

การเทียบโอนผลการเรียนในระบบ
1. หลักเกณฑ์การเทียบโอนผลการเรียน โดยการเทียบวิชาเรียนและโอนหน่วยกิตระหว่างการศึกษาในระบบ มีดังนี้
1. ให้เทียบโอนรายวิชา หรือกลุ่มวิชา ซึ่งมีเนื้อหาสาระการเรียนรู้ และจุดประสงค์ครอบคลุมไม่น้อยกว่าสามในสี่ของ
    รายวิชา หรือกลุ่มวิชาในสาขาวิชาที่นักศึกษาผู้ขอเทียบโอนศึกษาอยู่
2. รายวิชาหรือกลุ่มวิชาที่จะนำมาเทียบโอนต้องมีระดับคะแนนไม่ต่ำกว่า ค(C)
3. รายวิชาหรือกลุ่มวิชา ที่เทียบโอนหน่วยกิตให้ เมื่อรวมกันแล้วต้องมีจำนวนหน่วยกิตไม่เกินสามในสี่ของจำนวน
    หน่วยกิตตลอดหลักสูตร
4. ในกรณีที่มหาวิทยาลัยเปิดหลักสูตรใหม่ จะเทียบโอนนักศึกษาได้ไม่เกินกว่าชั้นปีและภาคการศึกษาที่ได้รับ
     อนุญาตให้มีนักศึกษาเรียนอยู่ตามหลักสูตรที่ได้รับความเห็นชอบแล้ว
2. ให้สถานศึกษาดำเนินการเทียบโอนผลการเรียนภายในภาคการศึกษาแรกที่ขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา ทั้งนี้ เพื่อผู้ขอ
    เทียบโอนจะได้รับทราบจำนวนรายวิชาและจำนวนหน่วยกิตที่จะต้องศึกษาเพิ่มเติมตามหลักสูตร
    กรณีเหตุผลจำเป็นไม่สามารถดำเนินการเทียบโอนผลการเรียนภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่งให้อยู่ในดุลยพินิของ
    หัวหน้าสถานศึกษาจะพิจารณาให้ขอเทียบโอน แต่ต้องไม่เกินภาคการศึกษาที่ 2 ในปีการศึกษานั้น
3. ให้มีการบันทึกผลการเทียบโอน และการประเมินผลดังนี้
1. รายวิชาหรือกลุ่มวิชาที่เทียบโอนให้ จะไม่นำมาคิดค่าระดับคะแนนเฉลี่ยประจำภาคและค่าระดับคะแนนเฉลี่ย
    สะสม โดยให้บันทึก Transfer Credits ไว้ส่วนบนของรายวิชาที่เทียบโอนให้ในใบแสดงผลการเรียน
2. รายวิชาหรือกลุ่มวิชาที่เทียบโอนให้ หากเป็นหลักสูตรที่มีองค์กรวิชาชีพควบคุม และต้องใช้ผลการเรียนประกอบ
    วิชาชีพ ให้กำหนดระดับคะแนนในรายวิชา หรือกลุ่มวิชาที่เทียบโอน เพื่อนำมาคิดค่าระดับคะแนนเฉลี่ยประจภาค
    และค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม โดยบันทึกอักษร “TC” (Transfer Credits) ไว้ส่วนท้ายรายวิชาหรือกลุ่มวิชาที
    เทียบโอนให้ในใบแสดงผลการเรียน

การเทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยเข้าสู่การศึกษาในระบบ
1. หลักเกณฑ์การเทียบโอนผลการเรียน โดยการเทียบโอนความรู้และให้หน่วยกิตจากการศึกษานอกระบบ และการ
    ศึกษาตามอัธยาศัยเข้าสู่การศึกษาในระบบ มีดังนี้
1. วิธีการประเมินเพื่อการเทียบโอนความรู้จะกระทำได้โดยการทดสอบมาตรฐาน การทดสอบที่ไม่ใช่การ
    ทดสอบมาตรฐาน การประเมินการจัดการศึกษา/อบรมที่จัดโดยหน่วยงานต่างๆ และการประเมินแฟ้มสะสม
    งาน
2. การเทียบโอนความรู้จะเทียบเป็นรายวิชาหรือกลุ่มวิชา ตามหลักสูตรที่เปิดสอนในมหาวิทยาลัย โดยรายวิชา
    หรือกลุ่มวิชาที่เทียบโอนให้เมื่อรวมกันแล้วต้องมีจำนวนหน่วยกิตไม่เกินสามในสี่ของจำนวนหน่วยกิตตลอด
    หลักสูตร
3. การขอเทียบโอนความรู้เป็นรายวิชาหรือกลุ่มวิชา ที่อยู่ในสังกัดภาควิชาหรือสาขาวิชาใด ให้ภาควิชาหรือ  
    สาขาวิชานั้นเป็นผู้กำหนดวิธีการและการดำเนินการเทียบโอน โดยการเทียบโอนความรู้นั้นต้องได้รับผลการ
    ประเมินเทียบได้ไม่ต่ำกว่า ค (C) จึงจะให้นับจำนวนหน่วยกิตรายวิชาหรือกลุ่มวิชานั้น
4. รายวิชาที่เทียบโอนให้ จะไม่นำมาคิดค่าระดับคะแนนเฉลี่ยประจำภาคและค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม โดย
    บันทึก Prior Learning Credits ไว้ส่วนบนของรายวิชาที่เทียบโอนให้ในใบแสดงผลการเรียน เว้นแต่หลักสูตร
    ที่มีองค์กรวิชาชีพควบคุม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และข้อกำหนดขององค์กรวิชาชีพนั้นในกรณีมีเหตุ
    จำเป็นมหาวิทยาลัยมีเอกสิทธิ์ที่จะให้ภาควิชาหรือสาขาวิชาทำการประเมินความรู้ของผู้ที่จะขอเทียบโอน
    ความรู้
2.  ให้มีการบันทึกผลการเรียนตามวิธีการประเมิน ดังนี้
1. หน่วยกิตที่ได้จากการทดสอบมาตรฐาน ให้บันทึก “CS” (Credits from Standardized Tests)
2. หน่วยกิตที่ได้จากการทดสอบที่ไม่ใช่การทดสอบมาตรฐาน ให้บันทึก “CE” (Credits from Examination)
3. หน่วยกิตที่ได้จากการประเมินการจัดการศึกษา/อบรมที่จัดโดยหน่วยงานต่างๆ ให้บันทึก “CT” (Credits from
    Training)
4. หน่วยกิตที่ได้จากการประเมินแฟ้มสะสมงาน ให้บันทึก “CP” (Credits from Portfolio)
    การบันทึกผลการเทียบโอนตามวิธีการประเมินในข้อ 2.1-2.4 ให้บันทึกไว้ส่วนท้ายของรายวิชา หรือกลุ่มวิชา
    ที่เทียบโอนให้ เว้นแต่หลักสูตรที่มีองค์กรวิชาชีพควบคุม และต้องใช้ผลการเรียนประกอบการขอใบอนุญาต
    ประกอบวิชาชีพ ให้กำหนดระดับคะแนนในรายวิชา หรือกลุ่มวิชาเพื่อนำมาคิดค่าระดับคะแนนเฉลี่ยประจำ
    ภาค และค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม โดยบันทึกอักษร “PL” (Prior Learning) ไว้ส่วนท้ายรายวิชาที่เทียบ
    โอนให้ในใบแสดงผลการเรียน
3. ให้มหาวิทยาลัยจัดทำประกาศเกี่ยวกับแนวปฏิบัติในการดำเนินการเทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษานอกระบบ
    และการศึกษาตามอัธยาศัยเข้าสู่การศึกษาในระบบ
4. การเทียบโอนผลการเรียนไม่ใช้บังคับกับการจัดการศึกษาระดับปริญญาภาคสมทบพิเศษ

ภาคปกติ
1.    กรณีที่นักศึกษาขอยกเว้นหรือเทียบโอนรายวิชา จะต้องได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษา หัวหน้าสาขาวิชา และกรรมการคณะ/วิทยาลัย โดยให้เป็นไปตามเกณฑ์และข้อกำหนดของคณะ/วิทยาลัย ที่รายวิชานั้นสังกัด
2.    การยกเว้นหรือเทียบรายวิชา จะกระทำได้ไม่เกินกึ่งหนึ่งของหน่วยกิตทั้งหมดตามหลักสูตร และต้องลงทะเบียนเรียนอีกไม่น้อยกว่า 40 หน่วยกิต
3.    การยกเว้นหรือเทียบรายวิชา จะยกเว้นหรือเทียบให้ตั้งแต่ระดับคะแนน ค (C) ขึ้นไป และในการคำนวณหาค่าระดับคะแนนเฉลี่ยประจำภาคหรือค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม ไม่ให้นำรายวิชาที่ได้รับการยกเว้นหรือเทียบมาคำนวณ
4.    การโอนรายวิชา จะกระทำได้ในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่เท่านั้น และให้นำรายวิชาที่ได้ศึกษามาแล้วทั้งหมดมาคำนวณหาค่าระดับคะแนนเฉลี่ยประจำภาคและค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมด้วย
5.    กรณีนักศึกษาผู้ใดที่พ้นจากการเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแล้วสอบกลับเข้ามาเป็นนักศึกษาใหม่ได้ภายในระยะเวลา 6 ภาคการศึกษา ให้นักศึกษาผู้นั้นมีสิทธิขอยกเว้นหรือเทียบรายวิชาที่ได้เรียนในมหาวิทยาลัยมาแล้ว โดยไม่ต้องลงทะเบียนเรียนใหม่ในรายวิชาที่สอบได้ค่าระดับคะแนน ค (C) ขึ้นไป เว้นแต่นักศึกษาที่เรียนในสาขาวิชาที่ต้องใช้ผลการเรียนประกอบการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามพระราชบัญญัติอื่นตามข้อกำหนด ให้มีสิทธิขอโอนรายวิชา และให้นำรายวิชาเหล่านั้นมาคำนวณหา ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยประจำภาคและค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม

ภาคสมทบและพิเศษ
1.    กรณีนักศึกษาขอเว้นหรือเทียบหรือโอนวิชาจะต้องได้รับความเห็นชอบจากหัวหน้าสาขาวิชาและคณะกรรมการหลักสูตร โดยให้เป็นไปตามเกณฑ์และข้อกำหนดของคณะ/วิทยาลัยที่รายวิชานั้นสังกัด
2.    การเว้นหรือเทียบรายวิชา จะกระทำได้ไม่เกินกึ่งหนึ่งของหน่วยกิตทั้งหมดตามหลักสูตร และต้องลงทะเบียนเรียนอีกไม่น้อยกว่า 40 หน่วยกิต
3.    การยกเว้นหรือเทียบรายวิชา จะยกเว้นหรือเทียบให้ตั้งแต่ระดับคะแนน ค (C) ขึ้นไป
ในการคำนวณค่าระดับคะแนนเฉลี่ยประจำภาคหรือค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม ไม่ให้นำรายวิชาที่ได้รับการยกเว้นหรือเทียบมาคำนวณ
4.    การเทียบรายวิชาจะกระทำได้ในกรณีต่างๆ ดังนี้
1.     เทียบประสบการณ์เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานในวิชานั้นๆ ขอสอบเทียบจากประสบการณ์
2.    เทียบจากการฝึกอบรม ในสถาบันฝึกอบรมของมหาวิทยาลัย และสถาบัน ฝึกอบรมอื่นๆ ที่ได้รับการพิจารณาเห็นชอบ
        จากคณะ/วิทยาลัย
3.    เทียบจากวุฒิบัตร ประกาศนียบัตร จากผู้ที่ได้ปฏิบัติงานอยู่ในงานที่ได้ผ่านการฝึกอบรม และได้รับใบประกอบ
       วิชาชีพจากหน่วยงานของราชการ ที่มหาวิทยาลัยพิจารณาเห็นชอบโดยทั้ง 3 ลักษณะ จะต้องทำการสอบเพื่อวัดผล
       การศึกษา ตามวิธีการที่คณะกรรมการหลักสูตรกำหนดและได้รับความเห็นชอบจากคณะ/วิทยาลัย

4.    ทียบวิชาที่เคยผ่านการศึกษาในวิชานั้นมาแล้วจากสถาบันการศึกษาอื่นเฉพาะรายวิชาศึกษาทั่วไป โดยจะต้องมีเนื้อหาวิชาที่เหมือนกันไม่ต่ำกว่า 80% และผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการหลักสูตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น